แฟนผีใจชื้น!เดเคอาเผยอยู่ครบสัญญา

 

ดาบิด เด เคอา จอมหนึบของ แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างความสบายใจแก่บรรดา 'เร้ด เดวิลส์' ว่าจะได้เห็นตัวเขาเฝ้าเสาช่วยทีมอย่างน้อยก็อีกหนึ่งฤดูกาลสวีทโบนันซ่า ยอดฮิต   

นายด่านที่ได้ชื่อว่าเหนียวสุดโลกลูกหนังยุคปัจจุบันได้รับความสนใจจาก เรอัล มาดริด หวังเอามาเฝ้าเสาในโปรเจคต์ 'กาลาติกอส 2018' ร่วมงานกับนักเตะฝีเท้าดีอีกหลายคนตามปณิธานของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ปธ.สโมสร

อย่างไรก็ตามมือกาววัย 27 กะรัต ยืนยันว่าฤดูกาล 2018-19 ก็จะยังเห็นเขารับใช้ 'ปีศาจแดง' ต่อไปอย่างแน่นอนเพราะยังสนุกในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด รวมถึงเคารพข้อผูกมัดอีกกว่า 16 เดือน     ASIA369

จอมหนีบ แมนฯ ยูไนเต็ด จะอยู่ถึง มิ.ย.2019 แน่นอน

โดย เด เคอา สัมภาษณ์ระหว่างแถลงความพร้อมกับทีมชาติสเปน ก่อนดวลแข้ง อาร์เจนตินาว่า "แน่นอน ผมตกหลุมรักการได้เล่นในอังกฤษ และก็ยังเคารพต่อข้อผูกมัดซึ่งทำกันไว้ที่นี่" 

"เช่นเดียวกับทุกครั้งเมื่อมาเล่นให้ทีมชาติสเปน ก็สัมผัสถึงการเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล มันถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้มีพลังใจลงแข่ง" 

สัญญาปัจจุบันของ เด เคอา มีกับ ยูไนเต็ด ถึงมิถุนายน 2019 ทว่าก็คงไร้ทีท่าเซ็นเพิ่มในเร็ววันนี้

  เล่นมาได้ 19 นาที รัสเซีย ได้โอกาสทอง เมื่อ อเล็กซานเดอร์ เอโรคิน ได้ปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่บอลข้ามคานออกไป

    จากนั้น นาทีที่ 28 ทัพหมีขาวได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ อลัน ซาโกเยฟ ลุยมาทางซ้ายก่อนไหลเข้ากลางให้ เฟดอร์ สโมลอฟ ตวัดยิงเร็ว แต่ อูโก้ โยริส ยังเซฟไว้ได้หวุดหวิดก่อนที่แนวรับตราไก่จะตามมาสกัดทิ้ง

    แต่กลายเป็นฝรั่งเศสที่มาขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 40 เมื่อ ปอล ป็อกบา จ่ายตามช่องไปให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หลุดไปล็อกหลบแนวรับเจ้าบ้านก่อนยิงหักข้อด้วยขวาเข้าประตูไป และหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

    เข้าสู่ครึ่งหลัง ตราไก่มาหนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 49 จากฟรีคิกระยะทำการ ปอล ป็อกบา ปั่นข้ามกำแพงผ่านมือ อังเดร ลูเนฟ เข้าประตูไป

    นาที 58 รัสเซีย น่าได้คืนเหลือเกิน จากลูกเตะมุมหลุดมาถึง เฟดอร์ สโมลอฟ ที่เสาไกลได้ซัดด้วยขวา โยริส ปัดได้ วลาดิเมียร์ กรานัต ได้ซ้ำเผาขนกลับยิงหลุดกรอบอย่างน่าเหลือเชื่อ

    อย่างไรก็ตาม รัสเซียมาตามตีไข่แตก 1-2 จากจังหวะที่ อีกอร์ สโมลนิคอฟ เปิดจากฝั่งขวาลึกไปเสาไกลถึง เฟดอร์ สโมลอฟ สอดมาแปตุงตาข่ายไม่เหลือ

    นาที 80 รัสเซียมีโอกาสตีเสมอ เมื่อ เฟดอร์ สโมลอฟ กระชากตัดจากฝั่งซ้ายมาซัดไกลด้วยขวา แต่บอลหลุดเสาไกลออกไป

    อีก 3 นาทีถัดมา กลายเป็นฝรั่งเศสที่หนีห่าง 3-1 เมื่อ แบลส มาตุยดี้ จ่ายจากทางซ้ายไปให้ เอ็มบั๊ปเป้ ตะลุยไปยิงด้วยขวา ถึงบอลจะตรงตัว แต่ ลูเนฟ ดันพลาดรับบอลลอดขาตัวเองเข้าประตูไป

    ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรเพิ่มไม่ได้ จบเกมฝรั่งเศสบุกชนะรัสเซีย 3-1